แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่อใจดีมีรื้อแผงนัดสุดท้ายของฤดูกาล แต่ยังคงวาง เควิน เดอ บรอยน์ บัญชาทัพลุยถิ่น เบรนท์ฟอร์ด ที่ขอเฮเพื่อขยับอันดับครั้งสุดท้าย ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคมนี้ เวลา 22.30 น.

“ผึ้งพิฆาต” ของเทรนเนอร์ โธมัส แฟร้งค์ ก็คว้าชัยกันมา 2 นัดติดในเกมลีก หลังจากบุกต่อย “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส 3-1 ในเกมลีกล่าสุด รั้งอันดับ 9 เอาไว้

สภาพทีมตอนนี้ยังคงอดใช้ ปอนตุส ยานส์สัน, คริสเตียน นอร์การ์ด และ คีน ลูอิส-พอตเตอร์ ที่ยังเดี้ยงอยู่ รวมถึง ไอแวน โทนี่ย์ ที่แบนยาวจนแทบหมดอนาคตด้วยข้อหาพนันบอล

ในระบบ 4-3-3 โยอัน วิสซ่า สตาร์ทหน้าเป้า ขณะที่ บริย็อง เอ็มเบวโม่ กับ เควิน เชด จะวิ่งริมเส้น แล้วให้ มาเธียส เยนเซ่น, วิตาลี่ ยาเนลต์ และ แฟร้งค์ ออนเยก้า เดินเกมกลาง คู่หลังใช้ เบน มี และ อีธาน พินน็อค คุมหลังบ้าน ก่อนถึงนายด่านอย่าง ดาบิด ราย่า

“เรือใบสีฟ้า” ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพิ่งจะเสมอเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เกมทุกรายการ หลังจากเจอกับ “นกนางนวล” ไบร์ทตัน 1-1 ในเกมลีกล่าสุด ความพร้อมเกมนี้เหลือแค่เช็กฟิตของ นาธาน อาเก้ และ ฟิล โฟเด้น ขณะที่ รูเบน ดิอาส, มานูเอล อคานจี, แจ็ค กรีลิช และ เอมเมอริค ลาปอร์กต์ ยังอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมช่วยทีม

ในระบบ 4-3-3 หน้าเป้าใช้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ คอยปิดสกอร์ ริยาด มาห์เรซ และ โคล พาล์มเมอร์ วิ่งริมเส้น แบร์นาร์โด้ ซิลวา, คัลวิน ฟิลลิปส์ และ เควิน เดอ บรอยน์ คุมเกมกลาง แล้วให้ จอห์น สโตนส์ และ เอมเมอริค ลาปอร์กต์ ยืนเซนเตอร์แบ็ก นายด่านวางใจ สเตฟาน ออร์เตก้า

                นัดสุดท้ายของ เอฟเวอร์ตัน ยังไงก็ขอเฮไว้ก่อนเพื่อการันตีว่าจะมาบู๊ใหม่ในซีซั่นหน้า ขณะที่ทีมเยือนอย่าง บอร์นมัธ มาแค่เตะให้ครบ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดท้าย คืนวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคมนี้ เวลา 22.30 น.

ฌอน ไดช์ นายใหญ่ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” หลังจากแบ่งแต้มกับ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-1 ในเกมลีกล่าสุด ก็ยังไม่ชนะใครเลยติดต่อกันมา 2 นัด

แถมการจัดทัพก็เรียกได้ว่าปวดหัวกันยันวันปิดเทอมเมื่อ เนธาน แพ็ตเตอร์สัน กับ โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน พากันเดี้ยงเพิ่มจากเดิมที่มี เบน ก็อดฟรีย์, ทอม เดวิส, เชมัส โคลแมน และ รูเบน วินาเกร ซึ่งตอนนี้ก็ยังอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมช่วยทีม ก็ยังดีที่ได้ คอเนอร์ โคดี้ กลับมาเป็นตัวเลือกในแนวรับ กับเหลือลุ้นฟิตของ วิตาลี่ มีโคเลนโก้

ทางด้าน บอร์นมัธ ของ แกรี่ โอนีล ก็พ่ายติดต่อกันเป็นนัดที่สามจากการยัดความปราชัยของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1 ในเกมลีกล่าสุด

สภาพทีมตอนนี้ก็ต้องดูว่า โจ ร็อธเวลล์ กับ ฟิลิป บิลลิ่ง จะฟิตทันช่วยทีมหรือไม่ เพราะในรายของ อ็องตวน เซเมนโย่, มาร์คัส เทเวอร์เนียร์, อาเหม็ด ตราโอเร่, ไรอัน เฟรเดอริคส์ และ จูเนียร์ สตานิสลาส ต่างก็ชวดกันหมด

                นิวคาสเซิ่ล ยังคงต้องลุ้นจนถึงนาทีสุดท้ายเพื่อคว้าชัยสำหรับการจบอันดับ 3 ของซีซั่นนี้ วางใจ อเล็กซานเดอร์ อิซัค นำทีมซัด เชลซี ที่มี ชูเอา เฟลิกซ์ เป็นทีเด็ด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคมนี้ เวลา 22.30 น.

“สิงห์บูลส์” ที่อยู่ในสภาพไร้ชัยมา 3 เกมติด ล่าสุดพ่ายให้กับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-4 ในเกมลีก ทำให้ยังคงรั้งอันดับ 12 เอาไว้

สภาพทีมตอนนี้นายใหญ่อย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ก็ไม่มี เบอนัวต์ บาเดียชิล, อาร์มานโด้ โบรย่า, ราฮีม สเตอร์ลิง, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาร์ค กูกูเรย่า, เบน ชิลเวลล์, มาเตโอ โควาซิช, รีซ เจมส์ และ มาร์คัส เบตติเนลลี่ อยู่ในบัญชีตัวเลือก เช่นเดียวกับ เมสัน เมาท์ ที่เดี้ยงเพิ่มไปอีกคน

ในระบบ 4-3-3 หน้าเป้าใช้ ชูเอา เฟลิกซ์ คอยปิดสกอร์ โดยมี คริสเตียน พูลิซิช และ โนนี่ มาดูเอเก้ วิ่งริมเส้น มิดฟิลด์วาง คอเนอร์ กัลลาเกอร์, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ และ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ช่วยกันคุมเกม ติอาโก ซิลวา คุมหลังบ้านกับ คาลิดู คูลิบาลี่ นายด่านใช้ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า

“สาลิกาดง” ของ เอ็ดดี้ ฮาว ก็ทำผลงานได้ไม่แพ้กันด้วยการไร้ขัยมา 3 ใน 4 นัด ล่าสุดทำได้แค่แบ่งแต้มกับ “จิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ แบบโนสกอร์ 0-0 แต่ก็ได้ตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มในฐานะอันดับ 4

ความพร้อมเกมนี้ขาด นิค โป๊ป, เอมิล คราฟธ์, ฆาบี มานกีโญ่, จามาล ลาสเซลล์ส, แม็ตต์ ริตชี่, โชลินตอน และ โจ วิลล็อค ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน ส่วน ไรอัน เฟร์เซอร์ ก็โดนส่งไปชุด U-21

ในระบบ 4-3-3 หน้าเป้าวาง คัลลั่ม วิลสัน เอาไว้ แล้วให้ เจค้อบ เมอร์ฟี่ย์ วิ่งริมเส้นขวา อีกฝั่งให้ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ขึ้นเกม แผงกลางมี ฌอน ลองสต๊าฟฟ์, บรูโน่ กีมาไรส์ และ เอเลียตต์ อันเดอร์สัน เซนเตอร์แบ็กเป็น ฟาเบียน ชาร์ ยืนคู่กับ สเวน บ็อตมัน นายด่านใช้บริการ มาร์ติน ดูบราฟก้า

                เหลืออีกแค่ทีมเดียวเท่านั้นที่จะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นลีกสูงสุดของเมืองผู้ดี เกมนี้ โคเวนทรี ต้องออกแรงสู้ ลูตัน ที่ต่างก็ไม่ได้เลื่อนชั้นกันมานานกว่า 20 ปี ในศึกฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ชิพ อังกฤษ รอบเพลย์ออฟ รอบชิงชนะเลิศ คืนวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคมนี้ เวลา 22.45 น.

มาร์ค โรบิ้นส์ ที่กุมบังเหียน “ช้างกระทืบโรง” มาพร้อมกับสถิติไร้พ่าย 9 นัดติดหลังจากเฉือน มิดเดิ้ลสโบรช์ 1-0 ในรอบตัดเชือกเพลย์ออฟเลื่อนชั้น นัดสอง ลิ่วชิงดำขึ้นเล่นพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปี นับตั้งแต่ 2001

ความพร้อมเกมนี้ก็ได้ตัว กุสตาโว ฮาเมอร์ กลับมาช่วยทีมอีกครั้ง เช่นเดียวกับ ไซม่อน มัวร์, โจนาธาน แพนโซ่, ไคล์ แม็คฟาดซีน, เบน ชีพ, เจมี่ อัลเลน, แม็ตต์ ก็อดเด้น และ เลียม เคลลี่ ที่ฟิตพร้อมเป็นตัวเลือก

ในรายของ ไทเลอร์ วอล์คเกอร์ ยังคงต้องลุ้นความฟิตอีกครั้ง ส่วน เคซี่ย์ พาลเมอร์, ฟาบิโอ ตาวาเรส และ คัลลั่ม โอแฮร์ ต้องดูเพื่อนเล่นไปก่อน เหลือแค่ลุ้นว่า เจมี่ อัลเลน หรือ จ้ม แม็ตต์ ก็อดเด้น จะยืนแนวรุกคู่กับ วิคเตอร์ โยเคเรส

ทางด้าน ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ ก็พา “เดอะ แฮ้ตเตอร์ส” พ่ายไปแค่เกมเดียวจาก 16 นัดหลังสุด ถึงอย่างนั้นก็ซัด เดอร์แลนด์ 2-0 เข้ารอบนี้มาได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1922

สภาพทีมตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพิ่มเติมไปจาก เกล็น เร กับ จอห์น แม็คเอที ที่อยู่ระหว่างรักษาอาการบาดเจ็บ ส่วนในรายของ แดน พ็อตต์ส, รีซ เบิร์ก, ลุ้ค ฟรีแมน, เอไลจาห์ อเดบาโย่, จอร์แดน คล้าร์ก, อัลฟี่ เดาตี้, คาร์ลตัน มอร์ริส, เปลลี่-รัดด็อค เอ็มแพนซู, เจมส์ เช, ซอนนี่ แบร็ดลี่ย์, เคาลี่ย์ วู้ดโรว์, กาเบรียล โอโช่ และ เฟร็ด ออนเยดินม่า ต่างก็ฟิตพร้อมช่วยทีมแล้ว

โมฮาเม็ด ซาลาห์ กองหน้าตัวเก่งของลิเวอร์พูล ออกมายืนยันว่า ทุกคนในทีม ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ หลังจากฤดูกาลนี้ พวกเขาพลาดโอกาสที่จะได้ไปเล่นใน ยูฟ่า แชมป์เปี่ยน ลีก เพราะน่าจะจบได้เพียงอันดับที่ 5 ของตารางเท่านั้น

กองหน้าวัย 30 ปี รายนี้ ออกมายอมรับว่า เขาและทีม ทำพลาดกันเอง จนทำให้แฟนบอลต้องผิดหวัง และหลังจากที่ ปีศาจแดง เอาชนะ เชลซี ไปได้ในเกมนัดล่าสุด ก็ปิดโอกาสไปเล่นในถ้วยใหญ่ของยุโรปลงทันที

“ผมรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และมันไม่มีคำแก้ตัวใดๆสำหรับเรื่องนี้” ซาลาห์ กล่าว

“พวกเราพยายามทำทุกอย่างที่เราทำได้ เพราะเราอยากจะไปเล่นใน ยูฟ่า แชมป์เปี่ยน ลีก ฤดูกาลหน้า แต่สุดท้ายเราก็ล้มเหลว”

“พวกเราคือ ลิเวอร์พูล การได้ไปเล่นใน ยูฟ่า แชมป์เปี่ยน ลีก คือสิ่งแรกที่เราควรจะทำได้ด้วยซ้ำ”

“ผมต้องขอโทษแฟนบอลทุกๆคน ที่เราให้ผิดหวัง ซึ่งผมเองก็รู้สึกแย่ไม่ต่างกัน”

เออร์ลิ่ง ฮาร์แลนด์ ออกมายืนยันว่า ตอนนี้ โฟกัสทั้งหมดของเขา คือการพา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าทริปเปิ้ล แชมป์ มาครองให้ได้ในฤดูกาลนี้

สุดยอกองหน้าของทีมรายนี้ พึ่งคว้ารางวัลนักเตะแห่งปีของ พรีเมียร์ ลีก มาครอง หลังจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ลงเล่นไป 51 เกม แต่ทำไปถึง 52 ประตู ให้กับเรือใบสีฟ้า ทั้งๆที่พึ่งย้ายมาฤดูกาลแรก จากสโมสร ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 51 ล้านปอนด์

“ตอนนี้มันยังเหลือเกมนัดชิงชนะเลิศอีก 2 นัด ดังนั้นเราต้องโฟกัสไปกับมัน แม้ว่าเราจะได้ พรีเมียร์ ลีก มาครองแล้วก็ตาม” ฮาร์แลนด์ กล่าว

“พวกเราต้องการชัยชนะใน 2 เกม นั้น ดังนั้นโฟกัส จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ผมจะทำทุกอย่าง เพื่อทำให้ทีมประสบความสำเร็จ และได้แชมป์ ทั้ง 2 รายการที่เหลือให้ได้”

“มันดีนะ ที่เราเป็นตัวเต็ง มากกว่า อินเตอร์ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าคุณภาพเรายอดเยี่ยมแค่ไหน แต่สุดท้าย ก็ต้องดูกันว่า เราจะชนะได้จริงๆหรือไม่”

สเปอร์ ต้องเจอกับความผิดหวังอีกครั้ง หลังจากล่าสุด ผู้จัดการทีมที่พวกเขาหมายปอง อย่าง อาร์เน่ สล็อธ ออกมายืนยันแล้วว่า ต้องการที่จะทำงานกับ เฟเยนูร์ด ต่อไปในฤดูกาลหน้า

ผู้จัดการทีมชาวเนเธอร์แลนด์ วัย 44 ปี รายนี้ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ในลีก เนเธอร์แลนด์ พาสโมสรของเขา คว้าแชมป์ ลีก มาครองได้อย่างเหลือเชื่อ จนทำให้เขากลายเป็นกุนซือเนื้อหอมทันที

“ผมได้ยินข่าวลือต่างๆมากมาย ว่ามีหลายทีมที่ให้ความสนใจในตัวของผม” สล็อธ กล่าว

“ผมรู้สึกดีใจนะ และก็ขอบคุณทุกๆทีมที่ให้ความสนใจ แต่ตอนนี้ ความต้องการของผม คืออยู่ทำงานกับ เฟเยนูร์ด ต่อไป และสานงานของผมต่อ ที่ผมทำมาในช่วงที่ผ่านมา”

“ดังนั้นคงไม่มีการแยกทางกันเกิดขึ้นแน่นอน และหากผมต้องเข้าไปพบผู้บริหาน คงมีเพียงเรื่องต่อสัญญาเท่านั้น”

“ผมตั้งตารอที่จะทำงานกับทีมต่อไปในฤดูกาลหน้า และหวังว่าจะรักษามาตรฐานแบบนี้เอาไว้ได้”

สเปอร์ จะไม่มีกองหลังตัวหลักอย่าง อิริค ดายเออร์ ในเกมสุดท้ายของฤดูกาลนี้ ที่จะเจอกับ ลีดส์ หลังจากเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บ และคาดว่าจะต้องเข้ารับการผ่าตัดในสัปดาห์นี้

ดายเออร์ กองหลังตัวเก่งของทีม ไม่ได้ช่วยสเปอร์ ใน 3 นัดหลังสุด จนทำให้ผลงานของทีมค่อนข้างมีปัญหา แถมอาการบาดเจ็บของเขาครั้งนี้ ทำให้หลุดจากทีมชาติอังกฤษ ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต อีกด้วย ซึ่งในเดือนหน้า จะมีโปรแกรมทีมชาติให้ลงเล่น

“พวกเราขอยืนยันว่า อิริค ดายเออร์ จะเข้ารับการผ่าตัดในสัปดาห์นี้ ดังนั้นเขาหมดสิทธิลงเล่นในเกมสุดท้ายให้กับเราอย่างแน่นอน ในฤดูกาลนี้ ที่เราต้องออกไปเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด” สโมสร แถลงการณ์

“กองหลังของเราจะเข้ารับการรักษาและปฎิบัติตามคำแนะนำของทีมแพทย์อย่างเต็มที่ เพราะเขาอยากจะหายเจ็บให้ไวที่สุด เพื่อที่จะกลับมาสู้ทีมอีกครั้ง และหวังว่าจะทันช่วงพรีซีซั่นอีกด้วย”

โดย ดายเออร์ ลงเล่นกับ สเปอร์ ทั้งหมด 42 นัดในฤดูกาลนี้ แต่ในช่วงท้ายฤดูกาล เจอกับอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง จนทีมต้องตัดสินใจพักยาว และให้เขารักษาด้วยการผ่าตัดทันที

เส้นทางอาชีพของ จอร์ดี้ อัลบา กับ บาร์เซโลน่า กำลังจะจบลงแล้ว หลังจากจบฤดูกาลนี้ หลังจากเจ้าตัวและสโมสร ตัดสินใจที่จะยกเลิกสัญญาด้วยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย

กองหลังชาวสเปนวัย 34 ปี รายนี้ มีสัญญากับทีมถึงฤดูกาลหน้า และลงเล่นให้กับบาซ่า มากกว่า 458 นัด คว้าแชมป์มาแล้วถึง 19 รายการ โดยเขาได้ลงเล่นเกมแรก เจอกับ เรอัล โซเซียดาด ในปี 2012

“สโมสรบาร์เซโลน่า ขอออกมาประกาศขอแสดงความขอบคุณ อัลบา สำหรับความเป็นมืออาชีพและความทุ่มเทให้กับเราเสมอมา เขาเป็นเหมือนครอบครัวของเรา และเขาจะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆในอนาคต” สโมสร ออกประกาศ

“บาร์เซโลน่า จะเป็นเหมือนบ้านของนายเสมอ จอร์ดี้”

อัลบา เป็นนักเตะที่เกิดในเมืองบาร์เซโลน่า และอยู่กับทีมมาตั้งแต่ระบบเยาวชน ก่อนที่จะย้ายออกไปในปี 2005 ซึ่งเจ้าตัว กลายเป็นตัวหลักของ บาเลนเซีย ในปี 2012 จนทำให้บาร์เซโลน่า ดึงตัวมาร่วมทีมในที่สุด

รุด ฟาน นิสเตอรอย ตำนานกองหน้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจประกาศแยกทางกับ พีเอสวี ไฮน์โอเฟ่น ทีมดังในเนเธอร์แลนด์ อย่างกระทันหัน ทั้งๆที่ยังเหลืออีก 1 เกม ในฤดูกาลนี้

ตำนานกองหน้าวัย 46 ปี รายนี้ เซนต์สัญญาทำงานที่ พีเอสวี 3 ปี แต่สุดท้าย เจ้าตัวตัดสินใจลาออก ทั้งๆที่ฤดูกาลแรกยังไม่จบลง คาดว่าอาจเป็นเพราะเจ้าตัว มองว่าสโมสร ไม่ได้สนับสนุนเขามากพอ

“ผู้จัดการทีม รุด ฟาน นิสเตอรอย ประกาศเมื่อวันพุธ ที่ผ่านมา ว่าเขาจะแยกทางกับ พีเอสวี ไฮน์โอเฟ่น” สโมสร แถลงการณ์

“หลังจากเราได้พูดคุยกันหลายครั้ง เราก็ได้ข้อสรุปแบบนี้ มาตั้งแต่วันอังคารแล้ว ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องด้วยกันทั้งคู่”

“ฟาน นิสเตอรอย คิดว่า ไอเดียต่างๆของเขา ไม่ได้รับการสนับสนุนจากสโมสรมากพอ ซึ่งเราต้องเสียใจด้วย ที่ทำให้เขารู้สึกแบบนั้น”

“อย่างไรก็ตาม เราต้องขอบคุณเขา ที่พาทีมของเรา คว้าแชมป์ได้ถึง 2 รายการในฤดูกาลนี้ และน่าจะจบรองจ่าฝูงในฟุตบอลลีกอีกด้วย”